เชื่อว่าแม้ทุกคนจะผ่านการต่อใบขับขี่มาแล้ว แต่ถ้าหากเวลาล่วงเลยไปเป็นปีก็คงหลงลืมวิธีการต่อใบขับขี่กันบ้าง เพราะใบขับขี่ไม่จำเป็นต้องทำการต่อกันบ่อย ๆ หากยังไม่ถึงกำหนดหมดอายุ
ซึ่งพอเข้าสู่ยุคปัจจุบันวิธีการต่อใบขับขี่ก็เปลี่ยนแปลงไปจากอดีตเป็นอย่างมาก เนื่องจากสถานการณ์โควิดที่ทำให้หลาย ๆ อย่างต้องปรับเปลี่ยนเป็นออนไลน์ ไม่ยุ่งยากเหมือนแต่ก่อน วันนี้ 35 ยนตรการจึงได้รวบรวมขั้นตอนการต่อใบขับขี่มอเตอร์ไซค์ อัปเดต ปี 2566 มาให้แล้วครับ
ในช่วงเวลานี้กรมขนส่งทางบกได้ผ่อนคลายมาตรการป้องกันโควิด จึงสามารถทำการวอล์กอินเข้าไปต่อใบอนุญาติขับขี่ได้เลยทุกสำนักงานขนส่งทั่วประเทศ แต่ถ้าหากใครประสงค์จะจองคิวล่วงหน้าก็สามารถจองได้ผ่านแอปพลิเคชัน DLT Smart Queue ได้ครับ
ก่อนที่จะเข้าไปต่อใบขับขี่ที่กรมขนส่ง จำเป็นต้องผ่านการอบรมทฤษฎีออนไลน์ ในระบบ e-Learning ของทางเว็บไซต์ การขนส่งทางบก ก่อนเท่านั้น โดยขั้นตอนการอบรมทฤษฎีออนไลน์ มีดังนี้
1. กดไปที่ปุ่ม “ลงทะเบียน”
2. กรอกข้อมูลให้ถูกต้องและครบถ้วน เพื่อทำการยืนยันรายละเอียดของผู้เข้าอบรม ประกอบไปด้วย
- เลขบัตรประจำตัวประชาชน
- เบอร์โทรศัพท์
- วันเดือนปีเกิด
3. เลือกการอบรมตามใบอนุญาติขับรถที่ต้องการต่ออายุ ประกอบไปด้วย
- ใบอนุญาติขับรถส่วนบุคคล (รถยนต์ รถจักรยานยนต์ รถยนต์สามล้อ) โดยใช้ระยะเวลาการอบรม 1 ชั่วโมง
- ใบอนุญาติขับรถขนส่ง โดยใช้ระยะเวลาการอบรม 2 ชั่วโมง
- ใบอนุญาติขับรถสาธารณะ (รถยนต์สาธารณะ รถยนต์สามล้อสาธารณะ รถจักรยานยนต์สาธารณะ) โดยใช้ระยะเวลาการอบรม 3 ชั่วโมง
4. ทำแบบทดสอบก่อนอบรม
5. ดูวิดีโออบรมใบอนุญาติขับรถส่วนบุคคล
6. ทำแบบทดสอบหลังอบรม เมื่อทำเสร็จเรียบร้อยแล้วให้กดส่งข้อสอบ
7. เมื่อผ่านการอบรมแล้ว ให้บันทึกหน้าจอผลการอบรมไว้ เพื่อใช้เป็นหลักฐานในการขอต่อใบอนุญาติใบขับขี่ที่กรมการขนส่ง
8. เดินทางไปกรมขนส่งที่ต้องการต่อใบขับขี่ และยื่นหลักฐานผ่านการอบรม
หมายเหตุ: ผลการอบรมใบขับขี่ออนไลน์ จะมีอายุ 6 เดือน นับจากวันผ่านการอบรม
- บัตรประชาชนของผู้ต่อใบขับขี่
- ใบขับขี่เดิม
- ใบรับรองแพทย์
- ผลการอบรมใบขับขี่ออนไลน์
1. ติดต่อเจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์เพื่อรับบัตรคิว
2. เมื่อได้คิวแล้ว เจ้าหน้าจะให้เอกสารใบทดสอบร่างกาย โดยต้องทดสอบทั้งหมด 4 ขั้นตอน ได้แก่
- ทดสอบการมองเห็นสี ที่จำเป็นในการขับรถ (สีแดง เขียว เหลือง)
- ทดสอบสายตาทางลึก
- ทดสอบปฏิกิริยาเท้า (ความสามารถในการใช้เบรกเท้า)
- ทดสอบสายตาทางกว้าง
3. เมื่อผ่านการทดสอบและได้รับเอกสารครบถ้วนแล้ว ให้ไปติดต่อที่ช่องทำใบขับขี่ รอชำระเงิน และถ่ายรูป ถือว่าจบขั้นตอนโดยสมบูรณ์
* หากใบขับขี่มอไซค์หมดอายุเกิน 1 ปี แต่ไม่ถึง 3 ปี จำเป็นจะต้องสอบข้อเขียนใหม่
* หากใบขับขี่หมดอายุเกิน 3 ปี ขึ้นไปแล้ว ต้องสอบข้อเขียน และสอบขับรถใหม่ พร้อมใบรับรองแพทย์
* สำหรับการต่ออายุใบขับขี่รถมอเตอร์ไซค์ส่วนบุคคลแบบ 5 ปี เป็นแบบ 5 ปี ต่อก่อนล่วงหน้าหรือขาดอายุไม่เกิน 1 ปี จะต้องทดสอบปฏิกิริยาการใช้เบรกเท้า การทดสอบสายตาบอดสี สายตาทางกว้าง และสายตาทางลึก ทั้งนี้ไม่จำเป็นต้องใบรับรองแพทย์ แต่ต้องเข้ารับการอบรม 2 ชั่วโมง
- ใบขับขี่รถมอเตอร์ไซค์ 2 ปี ชำระ 100 บาท ค่าคำขอ 5 บาท รวม 105 บาท
- ใบขับขี่รถมอเตอร์ไซค์ 5 ปี ชำระ 250 บาท ค่าคำขอ 5 บาท รวม 255 บาท
เพียงไม่กี่ขั้นตอนก็สามารถต่อใบขับขี่ใหม่ได้แล้ว อีกทั้งยังใช้เวลาไม่นาน เนื่องจากกรมขนส่งได้ปรับแนวทางการดำเนินการหลาย ๆ อย่างให้สอดคล้องกับวิถีชีวิตของผู้คนในปัจจุบันที่เร่งรีบ
ดังนั้นหากใบขับขี่หมดอายุแล้วแล้วก็ควรรีบไปต่อให้ไว เพราะถ้าหากปล่อยไว้นานมากเท่าไหร่ คุณก็ต้องเสียเวลาทั้งการสอบข้อเขียน สอบปฏิบัติ และตรวจสมรรถภาพร่างกาย ด้วยความห่วงใยจาก 35 ยนตรการ