ยางรถมอเตอร์ไซค์เป็นสิ่งที่มีความสำคัญอย่างยิ่งในการขับขี่ เพราะยางรถนั้นเป็นสิ่งเดียวที่เชื่อมระหว่างรถมอเตอร์ไซค์และถนน ทำหน้าที่ในการถ่ายทอดกำลังเครื่องยนต์สู่พื้นถนน ยึดเกาะถนน ตอบสนองการขับขี่ ไม่ว่าจะเป็นการเร่งความเร็ว การเลี้ยว การเบรก อีกทั้งยังทำหน้าที่รับน้ำหนักของทั้งตัวรถมอเตอร์ไซค์และผู้ขับขี่ ดังนั้นการเลือกยางรถมอเตอร์ไซค์ที่เหมาะกับการใช้งานของคุณจึงเป็นสิ่งสำคัญ
หากพูดถึงการเลือกซื้อยางรถมอเตอร์ไซค์นั้น มักจะหนีไม่พ้นในเรื่องของ ความหนึบ และความทนทานของยาง โดยทั้งสองปัจจัยนี้เป็นสิ่งที่แปรผกผันกัน ถ้ายางมีความหนึบมากเท่าไร เนื้อยางจะยิ่งอ่อนมากขึ้นเท่านั้น ซึ่งส่งผลให้มีอัตราการสึกหรอของยางที่สูงขึ้นนั่นเอง
ยางมอเตอร์ไซค์สามารถแบ่งออกได้เป็น 6 ประเภทหลักๆด้วยกัน ซึ่งแต่ละประเภทนั้นเหมาะกับการใช้งานมอเตอร์ไซค์ที่แตกต่างกันไป บางชนิดอาจจะเหมาะกับการใช้งานที่ถึกทน และบางชนิดอาจจะเหมาะกับรถแข่ง โดยแต่ละประเภท ได้แก่
เป็นยางรถมอเตอร์ไซค์โดยทั่วไปที่ใช้กันตามท้องถนน เหมาะกับการขับขี่ทั่วไปบนทางเรียบ มีหลากหลายแบรนด์ให้เลือกใช้ ซึ่งส่วนประกอบ รูปแบบ ลวดลายและหน้าตาของดอกยางนั้นจะแตกต่างกันไป สามารถยึดเกาะถนนได้ดี มีดอกยางที่ช่วยรีดน้ำ เศษฝุ่น เศษสิ่งสกปรกต่างๆ ได้เป็นอย่างดี
เป็นยางที่เหมาะกับการใช้ขับขี่โดยทั่วไปในชีวิตประจำวัน สามารถใช้ได้บนถนนทั้งเรียบและขรุขระ เส้นทางที่ไม่สม่ำเสมอได้เป็นอย่างดี เนื้อยางค่อนข้างแข็ง ไม่อ่อนนุ่มจนเกินไป อัตราการสึกหรอต่ำ มีดอกยางประมาณ 30-40% ของหน้ายาง ร่องยางลึก สามารถรึดเศษดินหรือโคลนออกได้ ใช้งานได้ยาวนานถึง 20,000 กิโลเมตร แต่ไม่เหมาะกับการขับขี่ด้วยความเร็วสูงหรือพื้นที่ขรุขระมากจนเกินไป
เป็นยางรถมอเตอร์ไซค์ที่ออกแบบมาเพื่อใช้กับรถประเภทครุยเซอร์ หรือรถที่มีขนาดใหญ่ เช่น บิ๊กไบค์ เป็นต้น มีความหนึบของยางปานกลาง มีหน้ายางที่กว้างและใหญ่กว่ายางประเภทอื่น สามารถรองรับน้ำหนักของรถได้ มีความแข็งแรงทั้งตัวเนื้อยางและโครงสร้าง ช่วยในการยึดเกาะถนนและควบคุมตัวรถได้ง่ายมากขึ้น แต่ไม่เหมาะกับการขับลุยดินลูกรัง
เป็นยางที่มีผิวสัมผัสนุ่มที่สุด อีกทั้งยังหนึบและมีความทนทาน มีประสิทธิภาพในการยึดเกาะถนนได้เป็นอย่างดี มีความเสถียรของการหมุน เนื่องจากมีดอกยางจำนวนมาก ยางประเภทนี้เหมาะกับรถมอเตอร์ไซค์สำหรับการแข่งขัน และการขับขี่บนทางเรียบเป็นหลัก
เป็นยางที่มีความยืดหยุ่น มีดอกยางน้อย แต่มีร่องยางที่ลึกมากกว่ายางประเภทอื่นๆ สามารถช่วยรีดน้ำและเศษดินได้มากขึ้น อาจรู้จักกันในชื่อ ยางหนาม หรือกึ่งหนาม เหมาะกับมอเตอร์ไซค์วิบาก มักถูกใช้คู่กับยางในและล้อแบบซี่ลวด เพื่อช่วยลดแรงกระแทกจากการกระโดด และลดแรงเสียดทานระหว่างวงล้อและตัวยาง
ยาง Slick หรือที่เรียกกันว่ายางสลิค เป็นยางที่ให้ความหนึบมากที่สุดในทุกประเภท มักถูกใช้ในรถมอเตอร์ไซค์สำหรับแข่งขัน ไม่เหมาะกับการใช้ขับขี่บนถนนสักเท่าไรนัก ยางสลิคนั้นไม่มีโครงยาง เนื้อยางอ่อนนุ่ม และไม่มีดอกยางจึงไม่เสียพื้นที่ผิวสัมผัสระหว่างพื้นถนนเลย อีกทั้งสามารถเอียงรถได้จนถึงขีดจำกัดเนื่องจากขอบยางของยางสลิคจะสูงจากพื้น แต่ความทนทานของยางประเภทนี้ต่ำมาก สามารถวิ่งได้เพียง 300-400 กิโลเมตรเท่านั้น และค่อนข้างอันตรายหากขับขี่ในระหว่างฝนตก หรือน้ำขัง เพราะไม่มีดอกยาง อีกทั้งยังอ่อนไหวต่ออุณหภูมิสภาพแวดล้อมอย่างมาก
นอกจากเลือกประเภทยางที่เหมาะสมกับการใช้งานของคุณแล้ว ยังมีปัจจัยอื่นที่คุณควรพิจารณาด้วย เช่น การเลือกขนาดยางให้เข้ากับขนาดล้อ ความสามารถในการรับน้ำหนักของยาง อีกทั้งควรเลือกดูดอกยางและลักษณะยางด้วย
ไม่ว่าคุณจะใช้ยางประเภทไหนก็ตาม คุณควรทำการตรวจเช็คสภาพยางอย่างสม่ำเสมอ โดยการดูดอกยาง หากดอกยางเริ่มบาง ผิวเริ่มเรียบ หรือมีรอยปริแตกต่างๆ คุณควรทำการเปลี่ยนยางทันทีเพื่อความปลอดภัยในการขับขี่ของคุณ โดยยางสำหรับรถมอเตอร์ไซค์มักจะมีอายุการใช้งานอยู่ที่ 10,000-20,000 กิโลเมตร ขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อม เช่น สภาพอากาศ อุณหภูมิ รวมไปถึงการใช้งานของคุณ